กรองร้อยถ้อยคำ

วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

คันใจจริง




          อยากร้องไห้ทุกวันปั้นปอสี่        อีกทั้งมีขำขันให้ได้หัว 
แต่อย่างนี้ทุกวันครูแสนกลัว               เพราะเจ้ามัวทำสิ่งใดไม่รู้เลย
วันนี้สอนเพื่อสรุปขึ้นเรื่องใหม่            โอ้ไม่ไหวต้องทำใจกล้าเปิดเผย
จะสอนเจ้าอย่างไรครูไม่เคย                พอครูเอ่ยเรื่องใดใดเจ้าไม่รู้
เกือบทั้งห้องผองเพื่อนทั้งสิบห้า          อีกดวงตาบ้องแบ๊วของหนูหนู
ทั้งควบกล้ำอักษรนำคลำงูงู                มีทั้งผู้ไม่รู้กลุ่มไตรยางค์
วิงเวียนเอ๋ยวิงเวียนเปลี่ยนการคิด        ตัวครูผิดกระบวนสอนไม่สว่าง
หุหุหุ!!! คันใจหนอขอปล่อยวาง          ค่อยค่อยสร้างเจ้าต่อไปเด็กไทยเอย

วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2558

ความปรองดองสมานฉันท์ สร้างสรรค์ชาติ

                            ในวันนี้อยากเห็นคนมีรัก         ให้ดวงพักตร์เปี่ยมสุขทุกข์ห่างหาย
มีแต่ความร่มเย็นเป็นสุขกาย              ไม่แบ่งฝ่ายย้ายทิศผิดกระบวน

          สังคมไทยแท้ของเรามีความร่มเย็นเป็นสุขทุกคืนวันมาช้านาน  มีความอบอุ่น เอื้อเฟื้อเกื้อหนุนกันมา  จนอยู่ในสายเลือดของความเป็นไทย  คนไทยมีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะร่วมกันอย่างมีความสุข  และแล้ววันหนึ่งก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิด คือคนไทยเกิดการทะเลาะกันเอง ด้วยข้อคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน ต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลของตนเอง ไม่ยอมรับซึ่งกันและกัน มีแต่ความเคืองขุ่น ด้วยคำพูดของแต่ละฝ่าย คนไทยจึงมีแต่ความทุกข์ และความหวาดระแวงว่าใครจะเป็นคนอยู่ข้างฝ่ายใด
          ปัญหาความแตกแยกในสังคมไทยนี้ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของบ้านเมือง  ต่อความสงบสุขของประชาชน  และต่อความเชื่อมั่นของนานาประเทศ  ลึกๆ แล้วคนไทยทุกคนมีแต่ความระทมทุกข์
อยู่ในจิตใจ
                             ถ้าคนไทยไม่รักกันมันคงสิ้น          ผืนแผ่นดินถิ่นที่อยู่อาศัย
                    เคยร่มเย็นเป็นสุขทุกข์ห่างไกล                ต่อนี้ไปจะอยู่ได้อย่างไรกัน

          เราคนไทยทุกคน ต้องมีความปรองดอง คือประนีประนอม ยอมกันบ้าง  ยอมรับข้อคิดเห็นที่แตกต่างกันด้วยไมตรีจิต  มีความเคารพในความแตกต่างทางความคิด ความแตกต่างทางวัฒนธรรม เชื้อชาติ ศาสนา แล้วร่วมใจกันสร้างควมสมานฉันท์ คือความพอใจร่วมกัน และมีความเห็นพ้องกัน  ถึงเวลาแล้วนะที่คนไทยทุกคน ต้องรักบ้านเมืองของเราเหนือข้อขัดแย้งใดใด 

          เราควรร่วมมือร่วมใจกันเสียสละเพื่อส่วนรวม และใช้หลักคุณธรรมในการคิด และการกระทำทุกๆ ด้าน ในการดำเนินชีวิตของเรา  คนเกิดมาแล้วก็จะต้องละจากโลกนี้ไปด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งไม่ทราบได้ว่าเมื่อใด สิ่งที่จะเป็นที่พึ่งได้ก็คือความดี ที่สะสมไว้ตั้งแต่ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่เท่านั้น ถ้าทุกคนคิดแบบนี้ ต่างคนต่างก็จะเป็นคนดี  มีเมตตาต่อกัน เกื้อกูลซึ่งกันและกัน  ไม่ประทุษร้ายกันด้วยกาย ด้วยวาจา
ประเทศไทยของเราก็จะเป็นประเทศที่น่าอยู่ เพราะมีแต่คนดี  คิดดี พูดดี ทำดี  เราต้องร่วมกันพัฒนาสร้างสรรค์ชาติไทยของเราให้เจริญรุ่งเรือง เพื่อซ่อมแซมสังคม และก้าวเดินไปในสากลอย่างมีความสุขแบบวิถีไทย  ความปรองดองสมานฉันท์ สร้างสรรค์ชาติ 
                                                                                          ราวัลย์  ชูชาติวรรณกุล